-
ปูนซีเมนต์ + น้ำ + ทราย นี่แหละคือ “คอนกรีต”
เทคโนโลยีการก่อสร้างบ้านเรือนเป็นอาคารปูนในประเทศไทยนั้น มีมาอย่างยาวนานกว่า 1,000 ปีแล้ว สังเกตเห็นได้จากโบราณสถาน วัด หรือ เทวาลัยต่าง ๆ ที่ไม่ได้นำแค่หินมาวางสร้างเป็นปราสาท แต่มีการผสานก่อนหินด้วยเคมีภัณฑ์ที่รวมวัสดุเหล่านั้นให้เป็นอาคารที่มีความแข็งแรง แต่ก็ยังมีชื่อเรียกที่สลับกันระหว่าง “ซีเมนต์” กับ “คอนกรีต” ที่ทำให้เราสับสนได้ว่ามันคืออะไร? เมื่อต้องการสร้างบ้านหากเรียกวิธีใช้วัสดุผิด ก็อาจได้บ้านที่ความแข็งแรงต่างกัน
เพื่อให้แยกระหว่าง “ซีเมนต์” กับ “คอนกรีต”
ด้ออกจากกัน พี่จระเข้มีวิธีอธิบายดังนี้ครับ
ง“ซีเมนต์” ก็คือ ผงสารเคมี หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ วัสดุ ที่นำไปใช้ผลิตคอนกรีต (เท่ากับว่าซีเมนต์ เป็นส่วนย่อยของคอนกรีตนั่นเองครับ) เนื้อซีเมนต์ที่เป็นผง ๆ นี้ ได้รับการจดสิทธิบัตรของชาวอังกฤษในชื่อ ซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ เนื่องจากการคิดค้นเพื่อให้ได้มานี้ ทำให้สีของผงซีเมนต์ มีสีคล้ายกับหินของเกาะปอร์ตแลนด์ ในประเทศอังกฤษ โดย โยเซฟ แอสป์ดิน ในราวปี พ.ศ. 2367
วิธีการสร้างซีเมนต์ ทำมาจาก หินปูน กับ ดินเหนียว ที่ผ่านการผสมกันแล้วนำไปเผา หลังจากนั้นก็นำไปบด แล้วซีเมนต์นี้จะต้องให้ค่าที่ได้มาตรฐานในการผสานหินต่าง ๆ ไว้ด้วยกันได้ ซึ่งมาตรฐานนี้รองรับด้วยมาตรฐาน European EN-197 ของยุโรป, มาตรฐาน ASTM จากอเมริกา และสำหรับหรับประเทศไทย รองรับด้วยมาตรฐาน มอก.
“เทียบง่าย ๆ ซีเมนต์ ก็เหมือน กาวที่ใช้ผสานวัตถุ”มาถึงคำอธิบายของ “คอนกรีต” กันบ้าง
“คอนกรีต” คือการผสานระหว่าง “ปูนซีเมนต์” + “น้ำ” + “ทราย” 3 อย่างนี้ เพื่อให้มีความแข็งแรง รับแรงอัดสูง ๆ ซึ่งตัวผนังบ้านเรือน ทรงอาคารต่าง ๆ นี่คือคอนกรีต และเราสามารถทำคอนกรีตให้รับแรงสูงยิ่งกว่าผนังบ้านเรือน ก็คือ ถนน, เขื่อน, สะพานต่าง ๆ โดยการผสมสารบางอย่างเข้าไปตั้งแต่ตอนส่วนผสมยังไม่แข็ง
การผสมคอนกรีตนั้น ต้องใช้เทคนิคการควบคุมส่วนผสมให้พอดีกัน ไม่เช่นนั้นแล้วเมื่อลาดคอนกรีตไปแล้วจะทำให้พื้นผิวแตก การผสมคอนกรีตมีสัดส่วนการผสมดังนี้
ปูน : ทราย : หิน
-
ผลิตเสาเอก, เสาโครงสร้าง, ผนัง ใช้สัดส่วน 1 ต่อ 1.5 ต่อ 3
-
ผลิตพื้น และ คาน ใช้สัดส่วน 1 ต่อ 2 ต่อ 4
-
ใช้ลาดถนน และงานฐานราก ใช้สัดส่วน 1 ต่อ 2.5 ต่อ 4
ในงานก่อสร้างบางครั้ง ต้องใช้วิธีการผสมซีเมนต์สร้างคอนกรีตที่แข็งแกร่ง ยกตัวอย่างเช่น ฐานตอม่อรถไฟฟ้า, ฐานเครื่องจักใหญ่ ๆ, ซีเมนต์ยึดเหนี่ยวเครื่องจักรในโรงงาน ในสินค้าของจระเข้เรียกซีเมนต์ประเภทนี้ว่า จระเข้ นอน เฟอรัส, นอน-ชริ้งค์เกร้าท์ ใช้สำหรับงานก่อสร้างสาธารณูปโภคที่คอนกรีตต้องรับแรงอัดสูง ๆ ใช้ผลิต พื้น ผนัง คาน และ เสา ที่ต้องการความแข็งแรง โดยมีความสามารถรองรับแรงอัดสูงถึง 850 ksc. โดยมีวิธีการใช้งานดังนี้ คือ
-
เตรียมคำนวณส่วนผสมของซีเมนต์ จระเข้ นอน เฟอรัส, นอน-ชริ้งค์เกร้าท์ ตามคำแนะนำดังนี้ >> https://www.jorakay.co.th/th/product/crocodile-non-ferrous-non-shrink-grout.html
-
วางแผนการใช้งานให้ดี ๆ เพราะว่าเมื่อผสมแล้วต้องใช้ให้หมดใน 15 นาที และจำหน่ายในปริมาณถุงละ 20 กิโลกรัม ให้คำนวณปริมาณที่ต้องใช้งานด้วย
-
เตรียมแบบสำหรับเทหล่อคอนกรีตให้พร้อม และต้องแข็งแรงพอเพื่อป้องกันการไหลของซีเมนต์
-
หลังจากหล่อซีเมนต์แล้ว ใช้เวลาบ่มด้วยการทำให้พื้นผิวเปียกชุ่ม อย่างน้อย 4 ชั่วโมง และยังไม่ควรใช้งานพื้นที่ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง
หลังจากผสม จระเข้ นอน เฟอรัส, นอน-ชริ้งค์เกร้าท์ แล้ว ต้องใช้ให้หมดใน 15 นาที และหากใช้ไม่หมดไม่สามารถนำมาผสมน้ำใช้ใหม่ได้ เพราะซีเมนต์ที่ผ่านการผสมเรียบร้อยแล้ว เมื่อเติมน้ำเข้าไปจะทำให้เนื้อซีเมนต์มีประสิทธิภาพได้ไม่เต็มที่ หากคุณมีข้อสงสัยในการผสม บ่ม หรือการใช้งานซีเมนต์รุ่นนี้ สามารถโทรเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับสินค้าได้ที่ 02 710 1112 ได้ในเวลาทำการครับ
ที่มาจาก :
1) ความหมายของซีเมนต์ จาก https://th.wikipedia.org/wiki/ซีเมนต์
2) ความหมายของคอนกรีต จาก https://th.wikipedia.org/wiki/คอนกรีตCr. https://www.jorakay.co.th/blog/owner/structure/what-is-the-difference-between-cement-and-concrete
-